ในพระพุทธศาสนา “มงคลชีวิต” หมายถึงข้อปฏิบัติอันเป็นเหตุให้ชีวิตประสบความสุข ความเจริญ และความสำเร็จ “การบำรุงบิดามารดา” ถือเป็นมงคลชีวิตข้อที่ 11 ใน “มงคล 38 ประการ” ซึ่งเป็นคำสอนสำคัญที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงเพื่อชี้แนวทางการดำเนินชีวิตที่ดีงาม
ความสำคัญของการบำรุงบิดามารดา
บิดามารดาเป็นผู้มีพระคุณสูงสุดต่อบุตร เพราะเป็นผู้ให้กำเนิด เลี้ยงดู และอบรมสั่งสอนให้เติบโตเป็นคนดี การบำรุงบิดามารดาจึงถือเป็นหน้าที่อันสำคัญของบุตรที่พึงปฏิบัติ
ในพระไตรปิฎกมีคำกล่าวว่า บิดามารดาเปรียบเสมือนพระพรหมของบุตร (พรหมสูตร, อังคุตตรนิกาย) เพราะท่านเป็นผู้สร้างและคุ้มครองชีวิต ดังนั้น การแสดงความกตัญญูรู้คุณและการดูแลท่านจึงถือเป็นการตอบแทนพระคุณอันยิ่งใหญ่
การบำรุงบิดามารดาในทางปฏิบัติ
- เลี้ยงดูยามท่านแก่เฒ่า
ลูกควรดูแลความเป็นอยู่ของบิดามารดาในช่วงวัยชรา ทั้งในด้านอาหาร การรักษาพยาบาล และความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน - แสดงความเคารพและให้เกียรติ
การแสดงความเคารพต่อบิดามารดาด้วยกาย วาจา และใจ เช่น การพูดจาด้วยคำสุภาพ รับฟังคำสอน และปฏิบัติตามคำแนะนำที่ดี - ช่วยแบ่งเบาภาระของท่าน
หากบิดามารดายังมีงานทำหรือภารกิจต่าง ๆ ลูกควรช่วยเหลือแบ่งเบาภาระตามกำลังความสามารถ - รักษาชื่อเสียงของครอบครัว
การประพฤติตนดีและดำรงชีวิตด้วยความซื่อสัตย์สุจริตถือเป็นการสร้างเกียรติยศและชื่อเสียงให้แก่ครอบครัว - สืบทอดคุณธรรมและความดี
ลูกควรสืบทอดคำสอนและคุณธรรมของบิดามารดา เพื่อให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตนเองและสังคม
ผลของการบำรุงบิดามารดา
พระพุทธเจ้าตรัสว่า ผู้ใดที่บำรุงบิดามารดาด้วยความเคารพและจริงใจ จะได้รับผลดีในปัจจุบันและอนาคต เช่น
- มีจิตใจสงบสุขจากการตอบแทนพระคุณ
- ได้รับพรจากบิดามารดา ซึ่งถือเป็นพรที่ศักดิ์สิทธิ์
- บุตรหลานของตนในอนาคตจะปฏิบัติต่อเราเช่นเดียวกัน
อ้างอิง
- พระไตรปิฎกฉบับภาษาไทย, อังคุตตรนิกาย
- พระธรรมเทศนาเรื่องมงคล 38 ประการ, พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต)
- หนังสือ “มงคลชีวิต”, สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
การบำรุงบิดามารดาไม่เพียงแต่เป็นมงคลชีวิตที่นำความสุขและความเจริญมาให้แก่ผู้ปฏิบัติ แต่ยังเป็นการสืบทอดคุณธรรมสำคัญที่ช่วยสร้างสังคมที่เปี่ยมด้วยความรักและความกตัญญู