ในทางพระพุทธศาสนา ภรรยา ถูกแบ่งประเภทไว้ใน พระไตรปิฎก เพื่อแสดงถึงความสัมพันธ์และบทบาทของภรรยาในครอบครัว ซึ่งพระพุทธเจ้าได้จำแนกภรรยาออกเป็น 7 ประเภท ตามลักษณะนิสัยและพฤติกรรม ดังนี้:

1. ภรรยาเสมือนเพชฌฆาต (วธกภริยา)

  • มีลักษณะดุร้าย ชอบข่มเหงสามี
  • ใช้คำพูดและการกระทำที่ทำร้ายจิตใจหรือร่างกายของสามี
  • เป็นประเภทที่นำความทุกข์มาสู่ครอบครัว

2. ภรรยาเสมือนโจร (โจรีภริยา)

  • มีนิสัยลักลอบทรัพย์สินของสามีไปใช้โดยไม่บอกกล่าว
  • ใช้ทรัพย์ของครอบครัวอย่างฟุ่มเฟือยหรือเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง

3. ภรรยาเสมือนนาย (อัยยภริยา)

  • ชอบบงการและควบคุมสามี
  • ไม่แสดงความเคารพหรือให้เกียรติในฐานะคู่ชีวิต
  • มักมองว่าสามีต่ำกว่าตน

4. ภรรยาเสมือนแม่ (มาตาภริยา)

  • มีความห่วงใย ดูแลสามีเหมือนแม่ดูแลลูก
  • ใส่ใจสุขภาพ ความเป็นอยู่ และความสุขของสามี

5. ภรรยาเสมือนพี่สาว (ภคินีภริยา)

  • แสดงความเมตตา อ่อนโยน และให้คำปรึกษา
  • คอยช่วยเหลือและสนับสนุนสามีในทุกด้าน

6. ภรรยาเสมือนเพื่อน (สขีภริยา)

  • มีลักษณะเป็นมิตร คอยช่วยเหลือและอยู่เคียงข้างสามี
  • แบ่งปันความสุขและทุกข์ร่วมกัน
  • เน้นความเท่าเทียมในความสัมพันธ์

7. ภรรยาเสมือนทาส (ทาสีภริยา)

      • เชื่อฟังและให้ความเคารพสามีอย่างเต็มที่
      • ยอมรับหน้าที่ในการดูแลครอบครัวโดยไม่ปริปากบ่น

    สรุป

    พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า การเป็นคู่ชีวิตที่ดี ควรปฏิบัติต่อกันด้วยความเคารพและเมตตา ภรรยาประเภทที่เหมาะสมและนำความสุขมาสู่ครอบครัวมากที่สุด ได้แก่ ภรรยาเสมือนแม่, พี่สาว, และ เพื่อน เพราะลักษณะเหล่านี้แสดงถึงความรัก ความเมตตา และการสนับสนุนซึ่งกันและกัน

    บทเรียนจากเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการปรับตัวและการทำหน้าที่ของคู่ชีวิตเพื่อสร้างครอบครัวที่มีความสุขและยั่งยืนในหลักธรรมของพระพุทธศาสนา 😊


    คำว่า ภรรยา หรือ แม่บ้าน มักถูกนำมาใช้เพื่ออธิบายบทบาทของผู้หญิงในครอบครัว ซึ่งสามารถแบ่งประเภทได้ตามลักษณะนิสัย บทบาท หรือหน้าที่ที่โดดเด่นในครอบครัวและชีวิตคู่ แม้ว่าการแบ่งประเภทนี้จะมีหลากหลายมุมมอง ขอยกตัวอย่างประเภทที่คนส่วนใหญ่มักพูดถึง:

    1. แม่บ้านเต็มเวลา (Full-time Housewife)

        • เป็นผู้ดูแลบ้านและครอบครัวโดยไม่ทำงานนอกบ้าน
        • หน้าที่หลักคือดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้าน ทำอาหาร และดูแลลูก

    2. แม่บ้านทำงานนอกบ้าน (Working Wife)

        • มีบทบาททั้งในครอบครัวและในหน้าที่การงาน
        • ต้องจัดสรรเวลาเพื่อทำงานและดูแลบ้านควบคู่กัน

    3. แม่บ้านสายประหยัด (Economical Wife)

        • เน้นการบริหารจัดการทรัพยากรในครอบครัวอย่างมีประสิทธิภาพ
        • มักจะมีไอเดียเกี่ยวกับการประหยัดรายจ่ายและการใช้ชีวิตเรียบง่าย

    4. แม่บ้านสายชิล (Relaxed Wife)

        • ไม่ซีเรียสเรื่องความเป็นระเบียบมากนัก
        • มุ่งสร้างบรรยากาศในบ้านให้ผ่อนคลายและมีความสุข

    5. แม่บ้านสายบงการ (Bossy Wife)

        • มีลักษณะชอบวางแผนและตัดสินใจแทนสมาชิกในครอบครัว
        • มักจะเป็นคนที่จัดการเรื่องต่างๆ ในบ้านได้ดี

    6. แม่บ้านสายรักสวยรักงาม (Beauty-oriented Wife)

        • ใส่ใจตัวเองเป็นพิเศษ ทั้งเรื่องการแต่งกาย การดูแลผิวพรรณ และสุขภาพ
        • ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับครอบครัว

    7. แม่บ้านสายสังคม (Socialite Wife)

        • ชอบเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม เช่น งานเลี้ยง งานการกุศล หรือชมรมต่างๆ
        • มักจะเป็นคนมีเพื่อนเยอะและช่วยสร้างเครือข่ายให้ครอบครัว

    8. แม่บ้านสายสนับสนุน (Supportive Wife)

        • สนับสนุนและช่วยเหลือสามีในด้านการงานและการใช้ชีวิต
        • มักจะเป็นที่ปรึกษาที่ดีและคอยให้กำลังใจเสมอ

    9. แม่บ้านสายฮา (Humorous Wife)

        • มีอารมณ์ขัน ชอบสร้างเสียงหัวเราะให้กับคนในครอบครัว
        • ทำให้บ้านเต็มไปด้วยความสุขและบรรยากาศที่อบอุ่น

    สรุป

    บทบาทของภรรยาหรือแม่บ้านนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์และความต้องการของครอบครัว บางครั้งผู้หญิงคนเดียวอาจมีหลายบทบาทผสมกันขึ้นอยู่กับช่วงชีวิตและหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ

    คุณคิดว่าแบบไหนเหมาะกับคุณมากที่สุด? 😊

Google search engine